ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 2.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาปิดที่ 83.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาดี และแรงซื้อของนักลองทุนก่อนวันหยุดขอบคุณพระเจ้า

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

+ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประจำเดือน พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 71.6 จาก 67.7 ในเดือนตุลาคมซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเนื่องจาก ตลาดแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้น และ ผู้บริโภคตอบรับมาตรการอัดฉีดเงินรอบสองของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)

+ ยอดตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯในเดือน ต.ค ปรับเพิ่มขึ้น 0.4 % เป็นการปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ส่งสัญญาณว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น และตลาดคาดว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้า ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยของสหรัฐฯ

+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ได้รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุด ณ วันที่ 19 พ.ย. 53 ว่าปรับสูงขึ้น 1 ล้านบาร์เรล เนื่องจากนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของรอยเตอร์ นอกจากนี้ ความต้องการใช้น้ำมันโดยรวมของสหรัฐฯ ในช่วงเฉลี่ย 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.4 % เมื่อเทียบกับปีก่อน

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล
ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลัง เพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล
ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลัง ลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล

-+ ตัวเลขยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ประจำสัปดาห์ ที่ 20 พฤศจิกายน 2553 ลดลง 34,000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ 407,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 441,000 ตำแหน่ง และเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปี

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

- ตลาดยังคงมีความกังวลว่า ปัญหาหนี้ในไอร์แลนด์อาจจะลุกลามไปยังประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป ส่งผลให้ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

- ยอดขายสินค้าคงทน ในเดือนตุลาคมปรับตัวลดลงมากถึง 3.3% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 รวมทั้งยอดขายบ้านใหม่ ในเดือนตุลาคม ปรับตัวลดลง 8.1 % มาอยู่ที่ 283,000 หลังต่อปี ชี้ให้เห็นว่าสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงมีความเปราะบาง

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาปิดที่ 85.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 0.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 81.48 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 0.03 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 91.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และมีความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้น จากเวียดนาม และอินโดนีเซีย เพื่อสำรองใช้ในไตรมาส 1/54

ราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 0.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 94.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากคาดว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันดีเซลของจีนจะเบาบางลง หลังจากที่จีนได้ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดีเซลในประเทศ และลดการส่งออก

- สนับสนุนข้อมูลโดยบมจ. ไทยออยล์ -