Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

 
|    

Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

[11-7-2019] “ภูมิใจไทย” ลั่นคุมเอง “การทางพิเศษ” มั่นใจ “ศักดิ์สยาม” รื้อแน่ขยายสัมปทานทางด่วน BEM
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงบ่าย ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ณ หอประชุมทีโอที แจ้งวัฒนะ มีการเสนอญัตติด่วน เรื่อง ขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา กรณีการต่อสัญญาสัมปทานให้กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) โดยมี นพ.ระวี มาศมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่เป็นผู้เสนอ โดยมีข้อมูลเปรียบเทียบทั้งกรณีไม่ต่อและต่อสัญญาสัมปทานให้ BEM เป็นระยะเวลา 30ปี (ดูรูปประกอบ)



 
 
ช่วง 15.00น. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ขึ้นอภิปรายว่า ในฐานะที่พรรคภูมิใจไทยได้รับการจัดสรรโควตารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะเข้าไปกำกับดูแลการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยตรง
 
โดยพรรคภูมิใจไทยเห็นว่า การตั้งคณะกรรมาธิการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อกระทรวงคมนาคม และส่วนตัวได้ศึกษามาบ้างว่า กทพ.เคยมีมติเมื่อ 20ปีที่แล้ว หากมีข้อพิพาทกับเอกชนต้องสู้ให้ถึงที่สุด มีเจตนาให้ผู้บริหารใช้อำนาจให้โปร่งใส เพราะ กทพ.เป็นรัฐวิสาหกิจ เอกชนอาจจะประนีประนอมได้ เพื่อผลประโยชน์ของเอกชน แต่ กทพ.ทำแบบนั้นไม่ได้
 
               


 
แต่เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ดำเนินการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาท ก็ถือเป็นอดีต ครม.ไปแล้ว ต้องให้ครม.ปัจจุบันตัดสินใจ และย้ำว่าฝ่ายนิติบัญญัติต้องตรวจสอบความโปร่งใสและไม่ชอบมาพากลต่างๆ อยู่แล้ว ส่วนฝ่ายบริหารโดยนายศักดิ์สยามคงตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง
 
นายศุภชัยกล่าวต่อว่า กทพ.แพ้คดีกับ BEM เพียงคดีเดียวคือ คดีทางแข่งขันทางด่วนบางปะอิน – ปากเกร็ด กับดอนเมืองโทลล์เวย์ มูลค่าเสียหาย 4,318ล้านบาทเท่านั้น จึงมีคำถามว่า แล้วคดีอื่นๆ จะแพ้ทั้งหมดหรือไม่ ตนเชื่อว่าทุกคดีมีช่องทางชนะคดีเสมอ
 
จึงไม่เห็นด้วยที่จะมาเจรจาและยอมแพ้เพื่อต่อสัญญาให้เอกชน ที่มีความพยายามสร้างตัวเลขมูลหนี้ที่เกินจริงกว่าแสนล้านบาท จึงเป็นหน้าที่ของสภาที่จะทำให้ทุกเรื่องเกิดความกระจ่าง และเสนอให้ฝ่ายบริหารรับรู้
 



ในฐานะสมาชิก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย คิดว่าเมื่อศึกษาแล้วเป็นประโยชน์ก็สนับสนุน และเชื่อว่านายศักดิ์สยาม ในฐานะรัฐมนตรีใหม่จะคิดเหมือนกัน
 
“สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าเพิ่งรีบร้อน สภาก็ศึกษาให้ดีก่อน ฝ่ายบริหารก็ขอให้รอสภาทำงานก่อนตัดสินใจ รัฐบาลชุดที่แล้วมีมติก็จบไป รัฐบาลใหม่ก็ถือเป็นอีกมิติหนึ่ง เพราะไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จอีกแล้ว ต้องฟังสภา ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และสิ่งที่กำลังทำอยู่ประชาชนที่ดูอยู่ จะชื่นใจ เพราะกำลังใช้สติปัญญาทำงานเพื่อประชาชน”










 

หน้าแรก | เกี่ยวกับเรา | ใบประกอบการ | การเข้าตลาดหลักทรัพย์ | แผนธุรกิจ | ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ | ข้อมูลลงทุน | ติดต่อเรา | สำหรับพนักงาน   
Copyright 2010 c-amc.com All Right Reserved. Website by GM