Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

 
|    

Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

[19-09-2562] ตลท. ยํ้าภารกิจ ร่วมพันธมิตร สร้างภูมิคุ้มกันหนุนบจ.โตยั่งยืน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอกยํ้าภารกิจจับมือพันธมิตรส่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ผลักดันบจ.ดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล หนุนเป้าเติบโตอย่างยั่งยืน เผย 7บจ.ไทย BANPU- CPALL-PTTEP-PTTGC-TOP -TRUE และ TU คว้าแชมป์ “ลีดเดอร์ อินดัสตรี” ใน DJSIนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ฯในการสร้างภูมิคุ้มกันที่จะทำให้เศรษฐกิจและสังคมไทยก้าวพ้นกับดักความยากจนและความเหลื่อมลํ้าว่า ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดำเนินการ 2แนวทาง คือ 1. การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน โดยการยกระดับความรู้ทางด้านการเงินและความมั่นคงทางการเงิน และ 2. ยกระดับการกำกับกิจการและสร้างคุณภาพบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยการพัฒนาได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ESG(Environmental, Social, and Governance)ทั้งนี้ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า หนี้ครัวเรือนของไทยในช่วง 10ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นกว่า 25%จากสัดส่วน 53.5%ขึ้นเป็น 78.6%ของจีดีพีในปี 2561สูงเป็นอันดับ 2ของเอเชียรองจากเกาหลี สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยพบว่า 40-50%เป็นหนี้ระยะสั้น ได้แก่หนี้ส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต หนี้รถยนต์ ขณะที่หนี้สินเชื่อบ้านและเป็นหนี้ระยะยาวกลับมี
สัดส่วนเพียง33%ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด  “คนเป็นหนี้อายุน้อยลง มีหนี้มากขึ้น และหนี้ไม่ได้ลดลงแม้จะเข้าสู่วัยเกษียณ ซึ่งหากคนไทยยังออมเงินเหมือนเดิม โอกาสที่จะใช้ชีวิตให้เหมือนเดิมหลังเกษียณจะยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะโลกอี-คอมเมิร์ซ สร้างความสะดวกในการซื้อขายผ่านออนไลน์ ทำให้ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่จับจ่ายมากขึ้น แต่ขาดทักษะในการบริหารเงินบุคคล กลายเป็นปัญหาระดับชาติ”     
นายภากร กล่าวว่าตลาดหลักทรัพย์ฯได้วางรากฐานทางการเงินมานานกว่า 2ทศวรรษ โดยการสร้างโครงการให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นระดับนักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป กลุ่มคนที่เป็นนักลงทุน ด้วยการผลักดันหลักสูตร “การเงินส่วนบุคคล” เข้าสู่ระบบการศึกษา การเตรียมพร้อมนักศึกษาเข้าอุตสาหกรรม ผ่านโครงการแข่งขัน Young Financial Star Competition (YFS) หรือส่วนของนักลงทุน ได้จัดโครงการเรียนผ่านห้องเรียนนักลงทุน ฯลฯ โดยความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ ก.ล.ต., กองทุนการออมแห่งชาติ (กบข.) บลจ.,บล. ฯลฯ
สำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับบจ. ตลาดหลักทรัพย์ฯได้วางรากฐาน จากจุดเริ่ม “วิกฤติปี 2540” จากปัญหาใหญ่ของบจ.ขณะนั้นคือไม่สามารถระดมเงินทุนได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติไม่มีความเชื่อถือในข้อมูล ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯตระหนักเรื่องนี้ จึงได้วางรากฐานโครงสร้าง โดยให้บจ.มีธรรมาภิบาลที่ดี รายงานต้องตรง ต้องปกป้องผู้ถือหุ้น ข้อมูลที่เผยแพร่ต้องทันเวลาตรงกับความต้องการ โดยพยายามสร้าง Corporate Governance ในการจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งหลังจากนั้นมา ปัจจุบันความน่าเชื่อถือของบจ.ไทยเป็นอันดับ 1ในอาเซียนและเป็นอันดับ 5ในทวีปเอเชีย และมีบจ. 20บริษัทได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มบริษัทดัชนีความยั่งยืนระดับโลก จำนวนนี้มี 7บริษัท เป็นระดับ Leader Industry ของโลก
เขากล่าวทิ้งท้ายว่าสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะดำเนินการต่อจากนี้ คือการเดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อผลักดันและส่งเสริม
ให้เกิดภูมิคุ้มกันในการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับองค์กรต่างๆเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนประเทศไทยเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนตามหลักสหประชาชาติให้เกิดขึ้น และมุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศไทย7 บจ.ไทยที่ได้คะแนนเป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนรายกลุ่มอุตสาหกรรมของดัชนีความยั่งยืน DJSI ได้แก่ 1) BANPU กลุ่มถ่านหินและเชื้อเพลิง 2) CPALL กลุ่มค้าปลีกอาหารและอุปโภคบริโภค 3) PTTEP กลุ่มนํ้ามันและก๊าซต้นทาง 4) PTTGC กลุ่มเคมีภัณฑ์ 5) TOP กลุ่มการกลั่นและการตลาดนํ้ามันและก๊าซ 6) TRUE กลุ่มบริการโทรคมนาคม และ 7) TU กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร




https://www.thansettakij.com/content/409988

 

หน้าแรก | เกี่ยวกับเรา | ใบประกอบการ | การเข้าตลาดหลักทรัพย์ | แผนธุรกิจ | ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ | ข้อมูลลงทุน | ติดต่อเรา | สำหรับพนักงาน   
Copyright 2010 c-amc.com All Right Reserved. Website by GM